ประกาศกระทรวงอุตสาหกรรมเรื่อง กำหนดเกณฑ์การปนเปื้อนในดิน…พ.ศ. 2559

กฎหมายน่าสนใจ

ประกาศกระทรวงอุตสาหกรรมเรื่อง กำหนดเกณฑ์การปนเปื้อนในดินและน้ำใต้ดินการตรวจสอบคุณภาพดินและน้ำใต้ดิน การแจ้งข้อมูลรวมทั้งการจัดทำรายงานผลการตรวจสอบคุณภาพดินและน้ำใต้ดิน และรายงานเสนอมาตรการควบคุมและมาตรการลดการปนเปื้อนในดินและน้ำใต้ดิน c
ประกาศในราชกิจจานุเบกษา ณ วันที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

สรุปสาระสำคัญ

Øให้ผู้ประกอบกิจการโรงงานตามบัญชีกฎกระทรวงควบคุมการปนเปื้อนในดินและน้ำใต้ดินภายในบริเวณโรงงาน พ.ศ. 2559 แจ้งข้อมูลของสารเคมีที่ใช้หรือเก็บรักษาภายในบริเวณโรงงานแผนผังแสดงจุดเก็บตัวอย่างและบ่อสังเกตการณ์ และข้อมูลอื่นที่จำเป็น ต่อกรมโรงงานอุตสาหกรรมหรือสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดที่โรงงานตั้งอยู่ภายใน 180 วันนับแต่วันเริ่มประกอบกิจการโรงงาน กรณีที่ได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงานมาก่อนวันที่ประกาศนี้มีผลใช้บังคับ ให้ยื่นข้อมูลและแผนผังดังกล่าวข้างต้นภายใน 180 วันนับแต่วันที่ประกาศ

Øการคำนวณเกณฑ์การปนเปื้อนในดินและน้ำใต้ดินให้ใช้ค่าความเสี่ยงอ้างอิง

  1. ค่า 10-6 สำหรับสารก่อมะเร็งในกลุ่ม 1 ตาม IARC กำหนดหรือ กลุ่ม เอ (Group A) ตาม U.S. EPA กำหนด
  1. ค่า 10-5 สำหรับสารก่อมะเร็งในกลุ่ม 2เอ (Group 2A) และกลุ่ม 2บี (Group 2B) ตาม IARC กำหนด หรือกลุ่ม บี (Group B) และกลุ่ม ซี (Group C) ตาม U.S. EPA กำหนด
  1. ค่า 1.0 สำหรับสารไม่ก่อมะเร็ง

Øการจัดทำรายงานผลการตรวจสอบคุณภาพดินและน้ำใต้ดินที่ผู้ประกอบกิจการโรงงานตามข้อที่กำหนดของกฎกระทรวงควบคุมการปนเปื้อนในดินและน้ำใต้ดินภายในบริเวณโรงงาน พ.ศ. 2559 จะต้องยื่นต่อกรมโรงงานอุตสาหกรรมหรือสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดที่โรงงานตั้งอยู่

Øการจัดทำรายงานเสนอมาตรการควบคุมการปนเปื้อนในดินและน้ำใต้ดินและมาตรการลดการปนเปื้อนในดินและน้ำใต้ดินให้ไม่สูงกว่าเกณฑ์การปนเปื้อนในดินและน้ำใต้ดิน

Øการตรวจสอบคุณภาพดินและน้ำใต้ดินต้องมีการเก็บตัวอย่างดินและน้ำใต้ดินตามคู่มือที่อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรมกำหนดโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา

Øกรณีที่ผู้ประกอบกิจการโรงงานตามกฎกระทรวงควบคุมการปนเปื้อนในดินและน้ำใต้ดินภายในบริเวณโรงงาน พ.ศ. 2559 เห็นว่าโรงงานของตนไม่มีกิจกรรมหรือไม่มีการใช้หรือเก็บรักษาสารเคมี ของเสีย หรือสิ่งอื่นใดภายในบริเวณโรงงานซึ่งอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพ อนามัยและสิ่งแวดล้อมและอาจก่อให้เกิดการปนเปื้อนในดินและน้ำใต้ดิน ผู้ประกอบกิจการโรงงานอาจแสดงเหตุผลโดยแจ้งเป็นหนังสือต่อกรมโรงงานอุตสาหกรรมหรือสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดที่โรงงานตั้งอยู่

Øเพื่อประโยชน์ในการดำเนินการตามกฎกระทรวงควบคุมการปนเปื้อนในดินและน้ำใต้ดินภายในบริเวณโรงงาน พ.ศ. 2559 ผู้ประกอบกิจการโรงงานต้องแสดงข้อมูลได้ว่าตนเองได้ดำเนินการติดตั้งบ่อสังเกตการณ์สำหรับการตรวจวิเคราะห์ดินและน้ำใต้ดินภายในบริเวณโรงงาน ซึ่งประกอบด้วยบ่อ 2 ประเภท คือ บ่อที่อยู่ในตำแหน่งเหนือน้ำเพื่อใช้เป็นบ่ออ้างอิง (Up-gradient) และบ่อท้ายน้ำเพื่อใช้ในการติดตามตรวจสอบการปนเปื้อนจากกระบวนการ (Down-gradient) โดยให้ครอบคลุมพื้นที่โรงงานที่มีศักยภาพก่อให้เกิดการปนเปื้อนแล้ว

Øการดำเนินการหากระดับน้ำใต้ดินเฉลี่ยในพื้นที่สถานประกอบกิจการโรงงานอยู่ลึกจากผิวดินเกินกว่า 15 เมตร และพิสูจน์โดยวิธีการที่ยอมรับได้ว่ามีชั้นหินแข็งอยู่ใต้พื้นที่โรงงานจนไม่สามารถเจาะดินและทำการติดตั้งบ่อสังเกตการณ์ เพื่อเก็บตัวอย่างน้ำใต้ดินได้ด้วยวิธีการปกติ ให้ผู้ประกอบกิจการโรงงานเก็บตัวอย่างดินชั้นบนก่อน ถ้าพบว่าดินชั้นบนดังกล่าวมีสารปนเปื้อนเกินกว่าเกณฑ์การปนเปื้อนในดิน ผู้ประกอบกิจการโรงงานต้องดำเนินการตรวจสอบคุณภาพดินและน้ำใต้ดินภายในบริเวณโรงงาน โดยละเอียดต่อไปทันที

Øการติดตั้งบ่อสังเกตการณ์จะต้องให้มีระดับความลึกของบ่อจากระดับน้ำใต้ดินลงไปมากพอ เพื่อให้มีปริมาณน้ำใต้ดินอยู่ในบ่อดังกล่าวเพียงพอ เพื่อดำเนินการเก็บตัวอย่างน้ำใต้ดินได้

ประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่อง ควบคุมการปนเปื้อนในดิน… พ.ศ. 2559

จากประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่อง ควบคุมการปนเปื้อนในดินและน้ำใต้ดินภายในโรงงาน พ.ศ. 2559
สามารถสรุปเนื้อหาและแยกประเด็นสำคัญ โดยเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวกับ “การตรวจสอบคุณภาพดิน” และ “การรายงานผล” ได้ดังนี้:


🔹 สรุปเนื้อหาหลักของประกาศ

  1. วัตถุประสงค์
    • เพื่อควบคุมการปนเปื้อนของสารเคมีอันตรายในดินและน้ำใต้ดินภายในโรงงาน
    • เพื่อกำหนดแนวทางการป้องกัน ตรวจสอบ และแก้ไขการปนเปื้อน
  2. ขอบเขตการบังคับใช้
    • โรงงานที่มีการใช้ เก็บรักษา หรือขนถ่ายวัตถุอันตราย
    • เน้นเฉพาะโรงงานประเภทที่มีความเสี่ยงต่อการปนเปื้อน
  3. มาตรการควบคุมและตรวจสอบ
    • การประเมินความเสี่ยง
    • การจัดทำรายงานคุณภาพดินและน้ำใต้ดิน
    • การเสนอแนวทางควบคุม/แก้ไขการปนเปื้อน

🔸 ประเด็นสำคัญที่เกี่ยวกับ “การตรวจสอบคุณภาพดิน” และ “การรายงานผล”

1. การตรวจสอบคุณภาพดินและน้ำใต้ดิน

  • ต้องดำเนินการ สำรวจและวิเคราะห์คุณภาพ ดินและน้ำใต้ดิน ณ บริเวณที่อาจมีการปนเปื้อน เช่น:
    • บริเวณที่เก็บวัตถุอันตราย
    • จุดที่มีการรั่วไหล หรือเคยมีประวัติอุบัติเหตุ
  • ต้องวิเคราะห์สารปนเปื้อนตามรายการที่กำหนดในภาคผนวก เช่น โลหะหนัก สารอินทรีย์ระเหย ฯลฯ

2. ความถี่ในการตรวจสอบ

  • ปีละครั้ง หรือตามที่กรมโรงงานอุตสาหกรรมกำหนด
  • กรณีเกิดอุบัติเหตุรั่วไหล ต้องตรวจสอบทันที

3. การจัดทำรายงานผลการตรวจสอบ

  • รายงานต้องประกอบด้วย:
    • ผลการวิเคราะห์คุณภาพดินและน้ำใต้ดิน
    • การเปรียบเทียบกับค่ามาตรฐาน
    • การประเมินความเสี่ยง
    • ข้อเสนอแนะหรือแนวทางการป้องกัน/ลดการปนเปื้อน
  • ต้องส่งรายงานต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ตามระยะเวลาที่กำหนด

4. มาตรการควบคุม / แก้ไข

  • หากตรวจพบการปนเปื้อนเกินเกณฑ์ ต้องจัดทำและเสนอ มาตรการควบคุมและลดการปนเปื้อน
  • ต้องดำเนินการตามมาตรการภายในระยะเวลาที่กำหนด